“พาณิชย์”ช่วยชาวสวน ซื้อมะม่วงฟ้าลั่น-น้ำดอกไม้ ราคานำตลาด

กรมการค้าภายในซื้อ “มะม่วงฟ้าลั่น” ราคานำตลาดโลละ 10 บาท “มะม่วงน้ำดอกไม้” โลละ 25 บาท นำขายให้ผู้บริโภคผ่านตลาด ส่วนมะม่วงตกเกรดจับมือปั๊ม PT นำแปรรูปเป็นของสมนาคุณให้ผู้เติมน้ำมัน เผยข่าวเททิ้งมะม่วง เป็นการคัดของตกเกรดออก หลังคัดของดีเพื่อส่งออก ระบุแผนรองรับผลผลิตช่วงเม.ย. เตรียมช่วยค่าบริหารจัดการกิโลละ 3 บาท นำขายผ่านรถโมบาย การเคหะ ห้างท้องถิ่น นิคมอุตสาหกรรม

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมฯ ดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กรมฯ จึงได้เร่งดำเนินการรับซื้อมะม่วงฟ้าลั่น เพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตตั้งแต่ต้นฤดูการผลิต รวมปริมาณการรับซื้อแล้วกว่า 1,400 ตัน ในราคา 10 บาท ซึ่งเป็นราคานำตลาด (ราคาตลาด เกรดคละ 7-8 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปี 2564 ที่ราคาอยู่ที่ 4-5 บาท) และมะม่วงน้ำดอกไม้ในราคา 25 บาท ซึ่งเป็นราคานำตลาด (ราคาตลาด เกรดคละ 20-22 บาท/กก. สูงกว่าปี 2564 ที่ราคาอยู่ที่ 15-20 บาท) ซึ่งการรับซื้ออย่างต่อเนื่องในราคานำตลาดส่งผลให้เกษตรกรมีความพอใจในราคาเป็นอย่างมาก

โดยในจังหวัดพิจิตร กรมฯ ได้เข้าไปรับซื้อผลผลิตจาก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงวังทับไทร กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงคลองทราย กลุ่มกองทุนฟื้นฟู กลุ่มเกษตรกรบ้านหนองสองห้อง และจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออกไทรย้อย กลุ่มผู้ปลูกมะม่วงบ้านเขาเขียว กลุ่มผู้ผลิตมะม่วงบ้านลำภาศ กลุ่มมะม่วงคุณภาพบ้านวังน้ำบ่อ กลุ่มแปลงใหญ่บ้านพุกระโดน กลุ่มบ้านคลองตะเคียน และได้นำไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภคผ่านตลาดในการส่งเสริมของกรมฯ เพื่อช่วยในการระบายผลผลิตให้กับเกษตรกร และช่วยให้ผู้บริโภคได้ซื้อมะม่วงในราคาถูก

 

ทั้งนี้ ในส่วนของผลผลิตตกเกรดที่ไม่มีตลาดรองรับ กรมฯ ได้ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรสถานีบริการน้ำมัน PT รับซื้อผลผลิตตกเกรดจากกลุ่มเกษตรกรเพื่อแปรรูป นำไปเป็นของสมนาคุณให้แก่ผู้ใช้บริการในปั๊มน้ำมัน รวม 300 ตัน โดยรับซื้อในราคา 5 บาท ซึ่งเป็นราคานำตลาด (ราคาตลาด อยู่ที่ 3-4 บาท คงที่จากปี 2564) โดยเป็นการรับซื้อต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25-31 มี.ค.2565 เพื่อให้มั่นใจว่าเกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายในช่วงปลายฤดู

สำหรับที่ปรากฏเป็นข่าวมีการเททิ้งมะม่วง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตรลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นการคัดแยกผลผลิตมะม่วงของผู้รวบรวมเพื่อการส่งออก ซึ่งมีการรับซื้อแบบเหมาและมาทำการคัดแยกที่ตกเกรดหรือไม่ได้คุณภาพออกทิ้ง เนื่องจากเข้าตลาดไม่ได้ ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการค้าปกติก่อนส่งไปยังตลาดปลายทาง

นายอุดมกล่าวว่า แนวทางการบริหารจัดการสินค้ามะม่วง ในปี 2565 เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกมากในช่วงเดือนเม.ย.2565 ในแหล่งผลิตสำคัญในจังหวัด เชียงใหม่ พิษณุโลก ลำพูน สุโขทัย ประจวบคีรีขันธ์ สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี พิจิตร นครราชสีมา กรมฯ จะร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในแหล่งผลิต ดำเนินมาตรการกระจายออกผลผลิต สนับสนุนค่าบริหารจัดการ กก.ละ 3 บาท ปริมาณผลผลิตมะม่วงเป้าหมาย รวม 14,900 ตัน

นอกจากนี้ จะมีการเปิดจุดจำหน่ายในรถโมบาย การเคหะ ห้างท้องถิ่น และนิคมอุตสาหกรรม อย่างต่อเนื่องตลอดฤดูการผลิต โดยมีเป้าหมายรับผลผลิตมะม่วงในช่วงเดือนเม.ย.2565 ปริมาณไม่น้อยกว่า 8,000 ตัน ซึ่งมาตรการทั้งหมดนี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพราคามะม่วงให้อยู่ในเกณฑ์ดีได้ตลอดฤดูการผลิต

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/business

admin